20 เทคนิค เลือกโรงงานทำครีม ปั้นแบรนด์คุณให้ปัง!
ครีม เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ได้รับความนิยม หลายคนใฝ่ฝันอยากมีแบรนด์ครีมทำครีมเป็นของตัวเอง แต่การจะผลิตครีมที่มีคุณภาพ จำเป็นต้องเริ่มต้นจากการเลือกโรงงานทำครีมที่ได้มาตรฐาน บทความนี้รวบรวม 20 เทคนิคสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนตัดสินใจเลือกโรงงานทำครีมก่อนการผลิตทำครีม
1. ประเภทของครีม:
ครีมบำรุงผิวหน้า การทำครีมจะแยกประเภทออกไปตามแต่ละกลุ่มเป้าหมายการตลาด เช่น ทำครีมให้เหมาะกับผิวผู้ชาย การทำครีมให้เหมาะกับผิวผู้หญิง การทำครีมให้เหมาะกับผิวแพ้ง่าย การทำครีมสำหรับกลุ่มเด็ก (ผิวแพ้ง่าย) การทำครีมสำหรับดูแลเรื่องฝ้า การทำครีมสำหรับกลุ่มสิว หรือแม้แต่การทำครีมให้เหมาะสมกับทุกสภาพผิว
ครีมบำรุงผิวกาย ทำครีมบำรุงผิวกายในท้องตลาดก็จะมีหลายประเภท เช่น ทำครีมบำรุงผิวขาว ทำครีมบำรุงริ้วรอย ทำครีมกันแดดทาตัว หรือทำครีมเคลือบผิวขาวเป็นตัน
ครีมกันแดด การทำครีมกันแดดขาย ก็จะเป็นที่นิยมในตลาดค่อนข้างสูง การทำครีมกันแดดนั้น ก็สามารถแยกประเภทออกมาได้อีก เช่น ทำครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูงๆ ,ทำครีมกันแดดที่มีเคลือบผิวขาวในตัว, ทำครีมกันแดดที่มีค่า SPF แต่ไม่มีสารเคลือบผิวใดๆทั้งสิ้น หรือทำครีมกันแดดที่มีรองพื้น หรือทำครีมที่มีไพร์เมอร์ในตัว
ครีมรักษาสิว การทำครีมรักษาสิวนั้น เจ้าของแบรนด์ต้องทราบก่อนว่าทำครีมรักษาสิว จะไม่ใช่ยา แต่เป็นกลุ่มเวชสำอางหรือเครื่องสำอาง ทำครีมรักษาสิว จะมีแบบแยกตามสิวแต่ละประเภท เช่นทำครีมรักษาสิวเสี้ยน ทำครีมรักษาสิวอุดตัน ทำครีมรักษาสิวเสี้ยน หรือทำครีมรักษาสิวผดผื่นแพ้ง่าย
2. วัตถุดิบ:
การทำครีมออกมาให้ดีนั้นต้องเลือกวัตถุดิบที่มีความปลอดภัย เหมาะกับสภาพผิว และทำครีมให้มีประสิทธิภาพ
ตรวจสอบการรับรองจากโรงงานทำครีม หน่วยงานที่ทำครีม รับผลิตทำครีม ที่น่าเชื่อถือ เช่น อย. หรือ FDA
เจ้าของแบรนด์เลือกวัตถุดิบที่ทำครีมเหมาะกับสภาพผิวโดยปรึกษากับโรงงานทำครีมที่มีมาตรฐานและได้รับการรับรองการผลิตทำครีมที่ถูกต้องตามกฎหมาย โดยเจ้าของแบรนด์ต้องสามารถตรวจสอบโรงงานทำครีมนั้นๆได้ด้วย รวมถึงขั้นตอนการผลิตทำครีม เพื่อให้ความมั่นใจกับผู้บริโภคว่าทางแบรนด์ ผลิตกับโรงงานทำครีมที่น่าเชื่อถือได้
เลือกวัตถุดิบที่มีงานวิจัยรองรับโดยสามารถปรึกษาเพิ่มเติมกับโรงงานผลิตทำครีม ว่าทางโรงงานทำครีมมีเอกสารอะไรบ้าง
3. รูปแบบของผลิตภัณฑ์
หรืออธิบายง่ายๆคือการจับผลิตภัณฑ์แต่งตัวยังไงเพื่อให้ขายได้ แต่ที่สำคัญคือ ต้องเลือกบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับเนื้อครีมที่ทำครีมออกมา
กระปุก: เราสามารถเลือกทำครีมใส่บรรจุภัณฑ์ที่เป็นกระปุก
หลอด: จะเหมาะกับ กลุ่มทำครีมกันแดด ทำครีมบอดี้โลชั่น หรือกลุ่มทำครีมแต้มสิว เพื่อสะดวกกับการใช้ เพราะฉะนั้นเวลาทำครีม แนะนำให้ปรึกษาทางโรงงานทำครีมก่อน
ซอง: จะเหมาะกับการทำครีมที่บรรจุไม่เยอะ
ขวด: ส่วนใหญาการทำครีมที่บรรจุใส่ขวดนั้น จะเป็นกลุ่มทำครีมบอดี้โลชั่น ทำครีมอาบน้ำ ทำครีมหรืโลชั่นสระผม
4. ปริมาณ:
สำหรับทดลองใช้: เลือกทำครีมปริมาณน้อย อย่างเช่น 3-5 กรัม
สำหรับใช้งานประจำ: เลือกทำครีมปริมาณมาก อย่างเช่นทำครีมแต้มสิว ควรจะบรรรจุ 10-15 กรัม ทำครีมกันแดด ควรจะอยู่ที่ 15-30 กรัม
สำหรับขาย: เลือกทำครีมบรรจุปริมาณที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มเป้าหมายมีกำลังซื้อครีมหลอดละ 500 บาท ต้นทุน ควรไม่เกิน 150 บาท (คิดแยกออกมาเป็นค่าเนื้อ ค่าบรรจุภัณฑ์ ค่าแรง ค่าการตลาดเป็นต้น) ก็จะทราบว่าควรทำครีมบรรจุเท่าไหร่ต่อชิ้น
5. มาตรฐานการผลิต:
ควรเลือกโรงงานทำครีมที่มีมาตรฐาน
GMP: มาตรฐานการผลิตที่ดีสำหรับผลิตภัณฑ์สุขภาพ
ISO: มาตรฐานสากลสำหรับระบบบริหารคุณภาพ
ระบบตรวจสอบคุณภาพ: ช่วยให้มั่นใจว่าครีมมีคุณภาพดี ปลอดภัย
6. บริการ:
โรงงานทำครีมที่ดีต้องมีบริการครบวงจร เช่น ออกแบบสูตร พัฒนาสูตร ขึ้นทะเบียน อย. ผลิต บรรจุ จัดส่ง
บริการหลังการขาย เช่น ให้คำปรึกษาทางการตลาด วิธีการใช้งาน เก็บรักษา
7. ใบอนุญาตประกอบกิจการ:
เจ้าของแบรนด์ทำครีมตรวจสอบใบอนุญาตอย่างถูกต้องได้
ตรวจสอบชื่อบริษัท สถานที่ตั้ง ตรงกับข้อมูลจริง
8. โรงงานผลิตทำครีม:
เจ้าของแบรนด์สามารถเยี่ยมชมโรงงานจริง ตรวจสอบความสะอาด อุปกรณ์ เครื่องจักร
สอบถามเกี่ยวกับกระบวนการผลิต ควบคุมคุณภาพได้
9. ทีมนักวิจัยและพัฒนาของโรงงานผลิตทำครีม:
โรงงานผลิตทำครีมต้องมีประสบการณ์ เชี่ยวชาญ พัฒนาสูตรครีม
ให้คำปรึกษาทำครีม แนะนำสูตรทำครีม เหมาะกับความต้องการของเจ้าของแบรนด์
10. ทดสอบผลิตภัณฑ์:
การทำครีมต้องทดสอบความปลอดภัย ประสิทธิภาพของครีมที่ผลิต เมื่อโรงงานทำครีมวิจัยครีมแล้วต้องส่งตัวอย่างให้ทางเจ้าของแบรนด์ เพื่อที่ทางแบรนด์ ต้องทำการทดสอบครีมที่ผลิตออกมา ซึ่งแบรนด์สามารถทดสอบกับตัวเอง หรือทดสอบกับกลุ่มเป้าหมาย แล้วทำการเก็บข้อมูล
11. ระยะเวลาการผลิต:
โดยปกติระยะเวลาการผลิตทำครีม จะอยู่ที่ 45-60 วัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆอย่างเช่น ทางโรงงานวิจัยทำครีมออกมาส่งให้แบรนด์ทดสอบ แล้วใช้เวลาทดสอบประมาณ2-7 วัน โดยเฉลี่ย หลังจากนั้น ต้องการปรับสูตรเพิ่มเติมหรือหม่ ระยะเวลาก๊จะยืดออกไปอีก
12. ราคา:
ถ้าเป็นการทำครีมที่พัฒนาสูตรใหม่ ทางเจ้าของแบรนด์สามารถกำหนดงบประมาณต่อชิ้น ต่อกิโล ได้เลยโดยอาจจะอ้างอิงจากกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมาย
13. รีวิวจากลูกค้า:
หลังจากโรงงานทำครีมผลิตสินค้าลอตแรกเสร็จแล้ว ทางเจ้าของแบรนด์จัดจำหน่ายนั้น เจ้าของแบรนด์ควรจะเก็บรีวิวจากลูกค้าด้วย เพื่อตรวจสอบรีวิว ประสบการณ์ ความพึงพอใจ
14. การจ้างผลิต
แนะนำให้เจ้าของแบรนด์แจ้งโรงงานทำครีมให้ยื่นเอกสารของเจ้าของแบรนด์เป็นผู้ว่าจ้างการผลิตด้วย
15. ความน่าเชื่อถือ:
ทางเจ้าของแบรนด์ควรตรวจสอบโรงงานผลิตทำครีมว่าอยู่ในธุรกิจมานานแค่ไหน มีความน่าเชื่อถืออย่างไรบ้าง
16. กำลังการผลิต:
เจ้าของแบรนด์ควรตรวจสอบว่าโรงงานมีกำลังการผลิตเพียงพอต่อความต้องการของทางแบรนด์มั้ย
17. บริการออกแบบบรรจุภัณฑ์:
เลือกโรงงานที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์สวยงาม ดึงดูดลูกค้า
18. บริการขึ้นทะเบียน อย.:
เลือกโรงงานที่มีบริการขึ้นทะเบียน อย. สะดวก รวดเร็ว
19. ช่องทางการติดต่อ:
ติดต่อสะดวก ตอบคำถามรวดเร็ว
20. เงื่อนไขการชำระเงิน:
ตรวจสอบเงื่อนไข ชัดเจน โปร่งใส
การเลือกโรงงานทำครีมที่ดี เปรียบเสมือนรากฐานสำคัญสู่ความสำเร็จของแบรนด์ ศึกษาข้อมูล เปรียบเทียบอย่างละเอียด พิจารณาปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ ช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกโรงงานที่ตรงใจ ผลิตครีมที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค